ดูดไขมัน Body Jet คืออะไร
ดูดไขมัน Body Jet เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังน้ำในการช่วยกำจัดเซลล์ไขมัน หรือดูดไขมันด้วยเทคนิคการฉีดพ่นน้ำเป็นรูปแบบพัด (Fan Shape) เพื่อแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเส้นประสาท และเส้นเลือดลดอาการช้ำ ให้ได้รับผลกระทบที่น้อยที่สุด มีความปลอดภัยสูงและสามารถนำเซลล์ไขมันมาปลูกถ่าย (Fat Transfer) เพื่อเติมเต็มในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
เครื่องดูดไขมันที่ใช้เทคโนโลยี Water Jet อย่าง Body Jet ฉีดพ่นน้ำเข้าไปถนอมเซลล์ไขมันอย่างอ่อนโยน แต่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง ช่วยในการแยกไขมันให้ออกจากเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ไม่ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังได้รับความบอบช้ำ ทั้งยังสามารถเอาไขมันออกได้มาก มีความเจ็บน้อย สามารถฟื้นตัวเร็ว
และที่สำคัญนั้นไม่ทำให้เกิดพังผืด มีผิวเรียบเนียน อีกทั้งไขมันที่ถูกแยกออกจากเนื้อเยื่อจะเป็นแหล่งสำคัญของสเต็มเซลล์คุณภาพสูง พลังน้ำที่อ่อนโยนนั้นทำให้เซลล์ไขมันยังคงมีชีวิต และยังคงเต็มไปด้วยสเต็มเซลล์ที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย
ดูดไขมันพลังน้ำ body-jet อ่อนโยนที่สุด
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet สามารถดูดไขมันทั้งตัวได้ ขึ้นอยู่กับความกังวลใจของคนไข้ และจะรู้ว่าควรดูดไขมันกี่จุด ดูดไขมันต้นขากี่จุด ต้องดูดตรงไหนเพิ่มบ้าง ต้องดูดไขมันหัวเข่าเพิ่มหรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมัน สัดส่วน โครงร่างของคนไข้ และการประเมินของแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันกรอบหน้า,ดูดไขมันเหนียง, ดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันเอวเอส, ดูดไขมันต้นแขน, ดูดไขมันต้นขา, ดูดไขมันน่อง ฯลฯ และสามารถดูดไขมันได้ปริมาณมาก
การดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet สามารถดูดได้ปริมาณมาก แต่ก็ใช้ระยะเวลานานมากขึ้นเช่นกัน แต่ก็มีข้อดีคือ จะไม่เกิดการเผาไหม้ ผิวไม่ Burn เส้นประสาทและเส้นเลือด รวมถึงเนื้อเยื่อข้างเคียงไม่ถูกทำลาย มีเลือดออกน้อยมาก ผิวจะเรียบเนียน ไม่เกิดเป็นคลื่น ไม่เกิดพังผืด มีแผลเล็กหลังทำเพียง 3 – 5 มม. เท่านั้น
ขั้นตอนการดูดไขมัน body-jet
Body-jet ใช้เทคโนโลยีพลังน้ำ ฉีดพ่นเข้าไปที่ชั้นไขมัน ในรูปแบบพัด (Fan Shape) เพื่อให้เซลล์ไขมันที่เกาะติดกันแน่น และเกี่ยวพันกับเส้นเลือดเส้นประสาท แยกออกจากกัน แ และลอยอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ในขณะเดียวกันเซลล์ไขมันก็จะถูกดูดออกมาอย่างอ่อนโยน
ไขมันที่ได้จากการ ดูดไขมัน Body Jet
ไขมัน Stem Cell คือ เซลล์ต้นกําเนิดของเซลล์ร่างกายที่ได้จากไขมัน สามารถนำไปพัฒนาเป็นเซลล์ได้หลายชนิด ทดแทนเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย เมื่อฉีดเข้าไปส่วนใดก็จะไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับเซลล์ส่วนนั้น จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนํามารักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงนํามาใช้ประโยชน์ในด้านความสวยงาม เช่น ลดริ้วรอย ร่องลึกของผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นหน้า คอ ร่องแก้ม ใต้ตา หน้าผาก
โดยฉีดเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการเพื่อให้สภาพผิวดีขึ้น จนริ้วรอยร่องลึก ต่าง ๆ ลดลง ทําให้แลดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง ซึ่งจะได้ไขมันที่มีคุณภาพจากการ ดูดไขมัน body jet เท่านั้นเป็นไขมันที่มีคุณภาพปริมาณสูง จึงทําให้ได้ Stem Cell จํานวนมาก
ดูดไขมัน Body Jet ดีกว่าการดูดด้วยวิธีอื่นอย่างไร
- ดูดไขมัน Body Jet มีการพ่นน้ำเพื่อแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันเส้นประสาทและเส้นเลือด ในขณะดูดไขมัน เพราะฉะนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อหลอดเลือด เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ทำให้ ไม่เกิดความบอบช้ำของผิวหรืออาการบวม และเสียเลือดในปริมาณน้อยมาก
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Jet เป็นกระบวนการดูดไขมันแบบระบบปิด ที่ช่วยทำให้ไขมันที่ดูดออกมาไม่กระทบกับอากาศภายนอกเหมือนเครื่องทั่วไป จึงไม่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อีกทั้งไขมันที่ได้มายังเป็นไขมันที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นการนำไขมัน ไปใช้นั้นแทบจะไม่มีการสลายตัว
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Jet มีการพ่นน้ำอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล จะทำให้ง่ายในการดูดไขมัน จึงใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันที่สั้นลง ทำให้เกิดการบอบช้ำน้อย
- ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Jet จะใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยมาก บางรายสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติในทันที
body-jet® ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับแพทย์ในการใช้ดูดไขมันปรับรูปร่างให้คนไข้ ด้วยเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยสูง เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และสะดวกรวดเร็ว
ข้อดีของเครื่อง body-jet
- สามารถดูดไขมันได้ทุกสัดส่วน
- ดูดไขมันได้ในปริมาณมาก
- ไม่ต้องดมยาสลบ ใช้ยาชาก็เอาอยู่
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังดูดไขมัน
- ดูดไขมันเสร็จแล้ว กลับบ้านได้เลย
- ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น ไม่บุ๋ม
- ระหว่างดูดไขมัน ไม่เจ็บ
- แผลเล็ก เพียง 3-5 มิล
- บวมน้อย บอบช้ำน้อย
- เอาไขมันไปเติมได้
ข้อเสียของเครื่อง body-jet
- ใช้เวลาดูดไขมันนานกว่าปกติ เพราะเป็นการสลายไขมันอย่างอ่อนโยน โดยใช้แรงดันน้ำค่อย ๆ ฉีดพ่นเข้าไป เซาะให้เซลล์ไขมัน แตกตัวออกจากกัน
- สัดส่วนจะไม่เล็กลงในทันที หลังดูดไขมันด้วย body-jet แต่ละค่อย ๆ ลดลง หลังจากดูดไขมันมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ – 1 เดือน
เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet คือนวัตกรรมการสลายไขมันแบบใหม่จากประเทศเยอรมันดี ด้วยความโดดเด่นในการใช้พลังงานน้ำในการสลายไขมัน เครื่อง body-jet จึงจัดเป็นเครื่องดูดไขมันที่มีความอ่อนโยนสูงที่สุดในบรรดาเครื่องดูดไขมันทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดความร้อนใต้ผิวหนัง หลังดูดไขมันผิวจึงบวมช้ำน้อย ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นก้อนแข็งก้อนไต (แต่ทั้งนี้การดูดไขมันด้วย body-jet ให้เห็นผลดีขึ้นจะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง) และด้วยความพิเศษของตัวเครื่องที่สลายไขมันอ่อนโยน จึงทำให้ไขมันที่ดูดออกมายังมีชีวิตอยู่ (เซลล์ไขมันไม่แตกตัวเป็นน้ำมัน) ดังนั้นไขมันส่วนเกินในจุดนี้จึงสามารถนำไปใช้ในการเติมไขมันในส่วนที่ขาดต่อไปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- ฉีดไขมันหน้าเด็ก
- ฉีดไขมันหน้าอก
- เติมไขมันหน้าผาก
- เติมไขมันใต้ตา
- ฉีดไขมันขมับตอบ
- เติมไขมันร่องแก้ม
- ฉีดไขมันแก้มตอบ
- เติมไขมันหลังมือ
- ฉีดไขมันก้นเด้ง
- เติมไขมันน้องสาว
ดูดไขมันพลังน้ำ body-jet อันตรายไหม?
ดูดไขมันพลังน้ำอันตรายไหม? เรื่องนี้เราไม่ต้องกังวลเลย หากเลือกดูดไขมันกับแพทย์ตัวจริงที่มีความชำนาญ โดยในบรรดาเครื่องดูดไขมัน body-jet ถือว่าเกิดมาเพื่อคนที่มีความกังวลเรื่องของผลข้างเคียง และกลัวการใช้เครื่องดูดไขมันชนิดที่ก่อให้เกิดความร้อนอย่างมาก
ตัวหัวเข็มของเครื่อง body-jet จะมีลักษณะเป็นหัวทู่ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อ ใครที่คิดว่าดูดไขมันแล้วเข็มจะแทงถึงไส้ เรื่องนี้ถือว่าพูดเกินจริงไปอย่างมาก ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน
นอกจากนี้พลังงานหลักของตัวเครื่องคือใช้น้ำในการสลายไขมัน เมื่อตัวเครื่องทำงาน น้ำที่เป็นพลังงานหลักจะทำหน้าที่สลายเซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นพวงองุ่น โดยคอย ๆ แยกออกอย่างอ่อนโยน ความอันตรายในเรื่องผิวหนังไหม้หลังดูดไขมันคือตัดทิ้งไปได้เลยหากเลือกดูดไขมันด้วยเครื่อง body-jet
ดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน body-jet
หลังดูดไขมันด้วยเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ หากต้องการให้ผลลัพธ์หลังดูดไขมันออกมาดีที่สุด และพึงพอใจที่สุด ควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี จะช่วยให้บริเวณที่ดูดไขมันบอบช้ำน้อย ลดการเกิดก้อนไต พักฟื้นไว และเห็นผลเร็ว
- ทานยาตามคำแนะนำของแพทย์ โดยปกติจะเป็นยาฆ่าเชื้อ, ยาลดบวม, ยาลดอักเสบ และยาแก้ปวด ทั้งนี้ แนะนำให้ทาน Vitamin C และ Vitamin B Complex เสริม เพื่อให้แผลสมานตัวเร็วขึ้น
- สวมชุดยกกระชับวันละ 18-20 ชั่วโมง และปลดตะขอชุดกระชับเพื่อพักได้ ครั้งละ 30-60 นาที ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง ช่วยป้องกันไม่ให้มีปัญหาแผลกดทับ
- ดื่มน้ำวันละประมาณ 1-2 ลิตร หากมีอาการอ่อนเพลียสามารถดื่มเกลือแร่ได้
- งดยา และอาหารเสริม ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด 2 สัปดาห์ (Aspirin, Warfarin, Vitamin E, Fish oil, Ginko)
- งดอาหารไม่สะอาด อาหารทะเล อาหารเค็ม ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าแผลดูดไขมัน เพราะจะทำให้แผลแฉะและเสี่ยงติดเชื้อได้
- ทำความสะอาดแผลทุกวันจนกว่าจะตัดไหม หากเหงื่อออกมากหรือแผลเปียกชื้น ให้เปลี่ยนผ้าก็อซใหม่ทันที
- รับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ โดยเน้นการทานโปรตีนจาก เนื้อปลา ไข่ นมถั่วเหลือง และธัญพืช
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง แผลผ่าตัดบวมแดงร้อน คลื่นใส้อาเจียนมาก มีแผลจากการใส่ชุดกระชับ ให้รีบมาพบแพทย์
สรุป
เครื่องดูดไขมันที่ใช้เทคโนโลยี Water Jet อย่าง Body Jet ฉีดพ่นน้ำเข้าไปถนอมเซลล์ไขมันอย่างอ่อนโยน แต่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง ช่วยในการแยกไขมันให้ออกจากเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ไม่ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังได้รับความบอบช้ำ ทั้งยังสามารถเอาไขมันออกได้มาก มีความเจ็บน้อย สามารถฟื้นตัวเร็ว และที่สำคัญนั้นไม่ทำให้เกิดพังผืด มีผิวเรียบเนียน อีกทั้งไขมันที่ถูกแยกออกจากเนื้อเยื่อจะเป็นแหล่งสำคัญของสเต็มเซลล์คุณภาพสูง พลังน้ำที่อ่อนโยนนั้นทำให้เซลล์ไขมันยังคงมีชีวิต และยังคงเต็มไปด้วยสเต็มเซลล์ที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย
Leave a reply