--

Sculptra เชียงใหม่ by Dr.Alex

sculptra เชียงใหม่

Sculptra   คือ อนุภาคของกรด PolyL-Lactic (PLLA) จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulator เชียงใหม่ เป็นสารฉีดกระตุ้น ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเราเองตามกระบวนการ ธรรมชาติ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยทําให้ผิว แน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุง คุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น Sculptra  เชียงใหม่ เป็น collagen stimulator ตัวแรกของโลก และเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ทําให้ มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็น ธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีผล หรืออาการข้างเคียงใดให้เป็นกังวล  

เมื่อเวลาผ่านไปบวกกับอายุที่มากขึ้น โครงสร้างของใบหน้าและผิว มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง? 

โครงกระดูกใบหน้าจะเปลี่ยนแปลงรูปทรงตามการสลายของกระดูก Volume loss มีการสูญเสีย ปริมาตรบนใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าตอบและไม่สดใส ที่สําคัญเลยคือเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กระบวน การสร้างคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลง โดยปกติจะเริ่มสร้างลดลงตั้งแต่อายุเข้าประมาณ 20 ปี และเมื่ออายุถึงวัย 45 ปี การสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง จึงทําให้สังเกตเห็นได้ชัดว่า ผิวมีความหย่อนคล้อยไม่กระชับเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนสําคัญในการพยุง โครงสร้างของผิวหากคอลลาเจนลดลงจะทําให้ผิวหย่อนคล้อย และเสียรูปทรงได้

คอลลาเจนคืออะไร มีทั้งหมดกี่ชนิด แต่ละชนิดมีความแตกต่าง หรือสําคัญอย่างไรบ้าง? 

คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลัก ของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% เป็นโครงสร้าง สําคัของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ เป็นต้น โดยใน ร่างกายคนเรามีคอลลาเจนหลากหลายชนิด ซึ่งชนิด ที่สําคัญและเราสามารถพบได้บ่อยมีด้วยกัน 3 ชนิด

1.) คอลลาเจน Type1 เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดใน ร่างกายพบมากอยู่ในผิวหนังและเส้นเอ็นมีความแข็งแรง และยืดหยุ่นสูง 

2.) คอลาเจน Type2 ที่เป็นเส้นใยที่หลวมกว่า Type1 พบมากอยู่ในกระดูกและข้อต่อ 

3.) คอลาเจน Type3 พบมากอยู่ในผิวหนัง และหลอดเลือด แต่ไม่แข็งแรงเท่ากับคอลลาเจน Type1 

 

คอลลาเจนชนิดใหนที่จําเป็น ต่อผิวของเรามากที่สุด

ก็คือคอลลาเจน Type1 ที่พบมากที่สุดในผิวหนัง ยิ่งเราอายุมากขึ้นกลับกันร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไปเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิว ปีละ 1- 2% และเมื่ออายุถึงวัย 45 ปีการสร้างคอลลาเจนในผิว จะยิ่งเริ่มลดน้อยลง สัญญาณอย่างหนึ่งที่มองเห็นได้คือ ผิวจะ ไม่กระชับเหมือนเดิม เกิดริ้วรอยต่างๆที่ชัดเจนขึ้น ซึ่ง Sculptra หรือ Original Collagen Biostimulator เป็นตัวกระตุ้นให้เกิด การสร้างคอลลาเจนในร่างกายของตัวเองตามธรรมชาติให้เพิ่ม มากขึ้น โดยตามผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่ง ถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ สามารถผลิต Collagen type1 ได้มากเทียบเท่ากับ Sculptra ในตอนนี้

ผู้ที่ฉีด Sculptra ควรจะต้องทําการรักษากี่ครั้งที่จะเห็นผลลัพธ์ สามารถทําต่อเนื่องกันได้หรือไม่ และต้องเว้นระยะห่างกันนานกี่สัปดาห์ ? 

ผลลัพธ์หลังการฉีด Sculptra จะค่อยๆเห็นผลที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากการฉีดประมาณ 2 3 สัปดาห์เป็นต้นไป โดยตามผลการวิจัย Sculptra จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิต Collagen type1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ซึ่ง collagen type1 เป็นคอลลาเจนตัวที่ผิวของเราต้องการมากที่สุดด้วยโดยทั่วไปควรจะทําการ ฉีด 2 3 ครั้ง โดยเว้นระยะในทุกๆ 4 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่คงอยู่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 

วิธีการเตรียมตัว ก่อนที่จะมารักษาด้วย Sculptra เชียงใหม่

การเตรียมตัวก่อนจะมาทําการรักษาคงจะคล้ายๆกับการรักษาแบบอื่นๆ ทั่วไป คือต้องไม่ฉีดหรือทําการรักษาหน้าด้วยหัตถการ ตัวอื่นๆ มาก่อนประมาณ 2 อาทิตย์ รวมถึงควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่มยาแอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการพกช้ํา รวมถึงงดวิตามินที่ทําให้เลือดหยุดไหลยากเช่น วิตามินอี น้ํามันปลา เป็นต้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด ดูแลสุขภาพร่างกายอยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจําตัวร้ายแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ 

หลังการรักษาด้วย Sculptra  เชียงใหม่ มีผลข้างเคียงอะไรบ้างที่ต้องเป็นกังวล และมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน? 

อาการทั่วไปหลังการฉีดในช่วง 1-2 วันแรกแล้วจะหายไปเองจะมีเพียง อาการบวม แดง ช้ําหรือมีอาการปวดเล็กน้อย ผลข้างเคียงอื่นส่วน มากก็จะไม่ได้รุนแรงอะไร แต่หากหลังจากฉีดไปแล้วอาจจะมีคลําเจอ ตุ่มนูนหรือก้อนเล็กใต้ผิวหนังก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะสามารถทํา ตามที่คุณหมอแนะนําคือให้เน้นนวดบริเวณที่ฉีด Sculptra มา เพื่อให้ อนุภาคของสารที่ฉีดไปไม่เกาะกลุ่มกันเป็นก้อน นอกจากนี้ Sculptra ยังสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ตกค้างในร่างกาย และ Sculptra ยังถือเป็น collagen biostimlator ตัวแรกของโลก และตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA ยิ่งเป็นการตอกย้ํา ความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยต่อร่างกายของคนให้ได้ เป็นอย่างดี 

คําแนะนําหลังจากการรักษาด้วย Sculptra ควรจะดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง หรือต้องระวังอะไรบ้างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี? 

หลังจากการฉีดคนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจําวันได้ตามปกติ ไม่จําเป็นต้องนอนพักฟื้น แต่สามารถประคบเจลเย็นบริเวณที่ทําการฉีด ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยลดอาการบวมได้ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยง การแต่งหน้า การอบซาวน่า การอบไอน้ําเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมงก่อน รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวี จนกว่าอาการบวม และแดงจะหายไป นอกจากนี้ต้องไม่ไปฉีดหรือทําการรักษาหน้าด้วย หัตถการอื่นๆหลังจากที่ฉีดมาแล้ว เว้นไปประมาณ 2-4 อาทิตยหลังจากนี้ และสิ่งสําคัญหลังจากฉีด Sculptra ไปแล้วต้องคอยนวดโดยใช้หลักการ แบบ Triple 5 เพื่อให้อนุภาคสาร PLLA กระจายตัวไปทั่วบริเวณใบหน้า และไปช่วยกระตุ้นคอลาเจนในบริเวณที่เราต้องการ ซึ่งจะต้องทําการนวด ครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวัน เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วัน ทําให้ได้ผลลัพธ์ ที่ดียิ่งขึ้น 

หลังการรักษาด้วย Sculptra สามารถเห็นผลได้ทันทีเลยหรือไม่ ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่ ? 

ผลลัพธ์หลังการรักษาด้วย Sculptra จะยังไม่สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทําได้ทันที หรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น เพียงเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยอย่างต่อเนื่อง หน้าจะดูไม่แข็งแต่ให้ความเป็นธรรมชาติมาก เพราะอนุภาคของ Sculptra หรือสาร PLLASCA จะค่อยๆ เข้าไปทําปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึกและเริ่มกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนในผิวของตัวเองให้เพิ่มขึ้น ทําให้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการฉีดไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ และจะเห็น ผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานถึง 2 ปี 

 

Sculptra | Galderma

 

 

Leave a reply