Deep Plane Face Lift

ศัลยกรรมดึงหน้า Deep Plane Face Lift

ลดอายุอย่างปลอดภัย ด้วยการทำศัลยกรรมย้อนวัย ให้ใบหน้าดูสดใสเต่งตึงไม่โป๊ะ และดูเป็นธรรมชาติหน้าไม่แข็ง และไม่ต้องกังวลเรื่องโบท็อกซ์ปลอม ฟิลเลอร์ปลอมอีกด้วย ศัลยกรรมดึงหน้าเป็นที่นิยมมากในกลุ่มดารา นักแสดงที่มีอายุเพิ่มขึ้น ความหย่อนคล้อยจะยิ่งเห็นชัด เพราะริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจะเป็นตัวบ่องบอกถึงอายุ และส่งผลต่อความมั่นใจในตัวเอง

ประเภทของศัลยกรรมดึงหน้า

1. ศัลยกรรมใบหน้าส่วนบน หรือการผ่าตัดดึงคิ้ว (Forehead Lift/Temporal Lift)
2. ศัลยกรรมดึงหน้าส่วนกลางและล่าง (Midface and/or lower Facelift)
3. ศัลยกรรมกระชับช่วงคอ (Neck Lift)

 

คนไข้สามารถเลือกทำหัตถการได้ทั้ง 3 อย่างขึ้นอยู่กับความหย่อนคล้อยของแต่ละบุคคล ความหย่อนคล้อยวัดจากปริมาณหนังที่เหี่ยวย่น ใบหน้าเหี่ยวและห้อยนับตั้งแต่บริเวณหน้าผาก หางตา ร่องแก้ม รวมไปจนถึงใต้คาง

 

การศัลยกรรมดึงหน้า เหมาะกับใคร ?

1. หางคิ้วตก หรือหางตาตก
2. หนังตาด้านข้างหนา พับลง
3. แก้มหย่อนคล้อย
4. มุมปากตก
5. ร่องแก้มลึก ร่องน้ำหมากลึก
6. ผิวบริเวณคอห้อย คางย้อย

หากพบว่ามีปัญหามากกว่าหนึ่งข้อควรพิจารณาการทำศัลยกรมเปลี่ยนหน้า ให้หน้าตึง หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปคือ “การ Lift หน้า” ที่ Dr. Alex Clinic ใช้วิธีการผ่าตัดแบบ Deep Plane ก็คือการผ่าตัดยกกระชับผิวในชั้นกล้ามเนื้อ หรือชั้นที่ติดกับกระดูกส่วนในของอวัยวะที่เข้าถึงยาก

การผ่าตัดดึงหน้าสมัยก่อนจะเรียกว่า “SMAS Technique” ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่จะดึงผิวหน้าที่อยู่ใต้ผิวหนังโดยตรง โดย SMAS คือชั้นผิวหนังที่เป็นชั้นกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบางๆ ใต้ผิว แต่การดึงหน้าแบบนี้มีข้อเสียคือ ข้อจำกัดในการดึงหนัง ซึ่งถ้าดึงลึกมากๆ จะเพิ่มความเสี่ยงของการรักษาบาดแผลด้านในที่ไม่ดีได้

การผ่าตัดแบบ Deep Plane Face Lift คือการย้ายบริเวณผ่าตัดไปยังจุดที่อยู่ใจกลางสำคัญ เช่น บริเวณรอบจมูกและมุมปาก ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบดั้งเดิม ชั้นผิวที่ถูกดึงคือเนื้อเยื่อที่อยู่เหนือชั้น SMAS แต่การผ่าตัดแบบ Deep Plane คือการผ่าตัดบริเวณชั้นกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ชั้น SMAS ซึ่งการผ่าตัดแบบ Deep Plane จะช่วยให้เราสามารถดึงและเข้าถึงบริเวณหน้าส่วนกลางได้ ซึ่งก็คือบริเวณใต้ตายาวลงมาไปยังข้างจมูกที่อยู่เหนือบริเวณปาก ดังสามเหลี่ยมที่แสดงในภาพ ซึ่งไขมันที่เสื่อมสภาพบริเวณนี้เป็นจุดสำคัญที่สุดที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ซึ่งการผ่าตัดแบบดั้งเดิมไม่สามารถเข้าถึงบริเวณจุดนี้ได้ ซึ่งการผ่าตัดดึงหน้าในชั้นที่ลึกกว่า สามารถเข้าถึงชั้นแผ่นไขมันที่เสื่อสภาพได้ดีกว่า ซึ่งจะช่วยทั้งเรื่องการยกกระชับและคืนความอ่อนเยาว์ได้

แต่การทำศัลยกรรมให้ออกมาตรงตามที่ต้องการไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนไข้เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองทั้งก่อนและหลังผ่าตัดของคนไข้ด้วย

การเตรียมตัวก่อนดึงหน้า

1. งดยาต้านการอักเสบ ( NSAID ) เช่นแอสไพริน บุหรี่ อาหารเสริมบางตัวที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น กระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด สมุนไพรไทยบางชนิดมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด จึงควรงดด้วย
2. สระผมตอนเช้าก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3. ผู้ที่มีความดันสูงต้องควบคุมให้เป็นปกติก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์
4. งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 1 – 2 อาทิตย์
5. เตรียมตัวหยุดงานประมาณ 7 -10 วัน สำหรับการดึงหน้าทั้งหมด และ 5 – 7 วัน สำหรับการดึงหน้าบางส่วน
6. ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด

 

การศัลยกรรมดึงหน้าในปัจจุบันมีการพัฒนาไปมาก และมีปลอดภัยค่อนข้างสูง สามารถทำได้ตามสภาพผิวหน้า โดยการผ่าตัดเอาส่วนหย่อนคล้อยออกและฟื้นฟูยกกระซับใบหน้านั้น ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม และผลกระทบในระยะยาว คนไข้ควรอธิบายถึงความต้องการของตนเองให้กับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยละเอียดก่อนตัดสินใจ ดังนั้นการเลือกสถานที่รักษาและแพทย์ผู้ผ่าตัดจึงเป็นขั้นตอนการตัดสินใจที่สำคัญมาก

การดูแลแผลหลังผ่าตัด 

1. นอนศีรษะสูง เป็นเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อช่วยลดอาการบวม
2. งดกิจกรรม การออกกำลังกาย ทุกชนิด ที่จะทำให้กระทบกระเทือนแผล ประมาณ 2อาทิตย์ และห้ามไม่ให้แผลถูกน้ำเป็นเวลา 2-3 วัน
3. สามารถสระผมเบา ๆ ได้ หลังจากการผ่าตัด 2-3 วัน

 

Mini Face Lift รีวิว Mini Face Lift เชียงใหม่ >>

https://www.facebook.com/pg/dr.alexclinic/photos/?tab=album&album_id=619871985024668

การทำศัลยกรรมหน้า, ศัลยกรรมยกคิ้ว, ดึงหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม, ดึงร่องแก้ม, หน้าเหี่ยว, ศัลยกรรมเปลี่ยนหน้า, minifaceliftราคา, คางย้อย, minifaceliftเชียงใหม่, faceliftเชียงใหม่, liftหน้า, หมอหน้าที่ไหนดี, faceliftคือ, กระชับคอ, liftหน้าpantip